สายไฟ THW ทางเลือกสายไฟสำหรับระบบ Smart Grid & IoT

สายไฟ THW เป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของโครงข่ายไฟฟ้า ที่ช่วยส่งผ่านพลังงานได้อย่างเสถียรและปลอดภัย รองรับการทำงานของ Smart Grid และ IoT ซึ่งต้องการระบบจ่ายไฟที่แม่นยำและมีประสิทธิภาพ ทั้งในภาคที่อยู่อาศัย อุตสาหกรรม และโครงสร้างพื้นฐานไฟฟ้ายุคใหม่ 

สายไฟ THW คืออะไร ? เข้าใจสายไฟยอดนิยมของระบบสายไฟฟ้า

หากคุณกำลังมองหาสายไฟที่ได้มาตรฐาน ปลอดภัย และเหมาะสำหรับการติดตั้งในงานระบบไฟฟ้าทั้งภายในอาคารและภายนอก สายไฟ THW คือคำตอบที่หลายโครงการเลือกใช้ โดยสายไฟ THW คือสายไฟชนิดหนึ่งที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย ทั้งยังทนความร้อนได้ดีและเหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีความชื้นสูง โดยสายไฟ THW มีชื่อเรียกที่มาจากคุณสมบัติหลัก ได้แก่

• T (Thermoplastic) หมายถึง ฉนวนผลิตจากวัสดุเทอร์โมพลาสติก
• H (Heat-Resistant) ทนความร้อนสูงสุดได้ถึง 70 องศาเซลเซียส
• W (Wet Location Suitability) เหมาะสำหรับติดตั้งในพื้นที่เปียกชื้น

ซึ่งสายไฟชนิดนี้นิยมใช้ในงานระบบไฟฟ้าทั่วไป เช่น บ้านพักอาศัย อาคารพาณิชย์ โรงงานอุตสาหกรรม หรือพื้นที่ที่ต้องเผชิญกับความชื้นหรืออุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลง เนื่องจากคุณสมบัติที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและลดความเสี่ยงของการลัดวงจร

ขนาดสายไฟ THW มีกี่แบบ ?

สายไฟ THW มีหลากหลายขนาดเพื่อรองรับการใช้งานที่แตกต่างกัน ตั้งแต่งานเดินสายภายในบ้าน ไปจนถึงระบบไฟฟ้าในโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ โดยขนาดของสายไฟจะระบุเป็นพื้นที่หน้าตัดของตัวนำ (หน่วย: ตารางมิลลิเมตร - SQ.MM.) ซึ่งแต่ละขนาดจะสามารถรองรับกระแสไฟฟ้าได้แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น

• THW 1×1.5 SQ.MM. : รองรับกระแสไฟสูงสุด 21 แอมป์ เหมาะสำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก
• THW 1×2.5 SQ.MM. : รองรับกระแสไฟสูงสุด 28 แอมป์ ใช้กับวงจรย่อย เต้ารับ เครื่องทำน้ำอุ่น
• THW 1×4 SQ.MM. : รองรับกระแสไฟสูงสุด 37 แอมป์ เหมาะสำหรับโหลดไฟฟ้าขนาดกลาง
• THW 1×6 SQ.MM. : รองรับกระแสไฟสูงสุด 49 แอมป์ ใช้เป็นสายเมนจ่ายไฟในบ้านหรือห้องขนาดใหญ่
• THW 1×10 SQ.MM. : รองรับกระแสไฟสูงสุด 68 แอมป์ เหมาะสำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้ากำลังสูง เช่น ปั๊มน้ำ หรือเครื่องจักรขนาดกลาง
• THW 1×16 SQ.MM. : รองรับกระแสไฟสูงสุด 91 แอมป์ สำหรับเครื่องจักรหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าขนาดใหญ่
• THW 1×25 SQ.MM. : รองรับกระแสไฟสูงสุด 122 แอมป์ มักใช้เดินสายไฟในอาคารขนาดใหญ่หรือระบบไฟฟ้าระดับอุตสาหกรรม
• THW 1×35 SQ.MM. : รองรับกระแสไฟสูงสุด 151 แอมป์ สำหรับโครงสร้างไฟฟ้าที่ต้องการกระแสสูงและระยะไกล
  

รวมถึงยังมีสายไฟ THW ขนาดใหญ่กว่าที่กล่าวไปข้างต้น เช่น 50, 70, 95, 120, 150, 185, 240, 300 จนถึง 400 SQ.MM. ซึ่งจะรองรับกระแสไฟได้ตั้งแต่ 184 แอมป์ ไปจนถึง 736 แอมป์ จึงเหมาะสำหรับระบบจ่ายไฟหลักในอาคารสูง โรงงาน หรือระบบไฟฟ้าขนาดใหญ่

การเลือกขนาดสายไฟ THW ให้เหมาะสมกับลักษณะงานจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ระบบไฟฟ้าปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ โดยขนาดของสายไฟควรพิจารณาตามปริมาณโหลดกระแสไฟและระยะทางการเดินสาย เพื่อให้รองรับการใช้งานได้อย่างเหมาะสมและไม่เกิดความร้อนสะสมจนเสี่ยงต่อความเสียหายของระบบไฟฟ้าในอนาคต

ระบบไฟฟ้าอัจฉริยะ ทางเลือกเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน

ตัวอย่างการใช้งาน Smart Grid และ IoT ในชีวิตจริง

ภาคที่อยู่อาศัย

• Smart Meter (มิเตอร์ไฟฟ้าอัจฉริยะ) ตรวจสอบการใช้พลังงานแบบเรียลไทม์ ลดค่าไฟฟ้าโดยวางแผนใช้พลังงานอย่างเหมาะสม
• ระบบบ้านอัจฉริยะ (Smart Home) ควบคุมไฟฟ้า เปิด-ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้า ผ่านมือถือ ช่วยประหยัดไฟและเพิ่มความสะดวกสบาย
• Solar Rooftop เชื่อมต่อ Smart Grid ผลิตและจ่ายไฟคืนเข้าสู่ระบบไฟฟ้าโดยอัตโนมัติผ่านระบบตรวจสอบพลังงาน

ภาคอุตสาหกรรม

• เซนเซอร์ตรวจจับโหลดไฟฟ้าในโรงงาน ช่วยแจ้งเตือนเมื่ออุปกรณ์กินไฟผิดปกติ ลดความเสี่ยงเครื่องจักรเสียหาย
• ระบบควบคุมไฟฟ้าแบบเรียลไทม์ ช่วยบริหารพลังงานในสายการผลิตได้แม่นยำ ลดต้นทุนค่าไฟฟ้าอย่างยั่งยืน
• สถานีไฟฟ้าย่อยอัจฉริยะ (Smart Substation) เชื่อมต่อข้อมูลกับศูนย์กลาง ช่วยให้การจ่ายไฟในเครือข่ายมีเสถียรภาพมากขึ้น

ซึ่งการติดตั้งระบบไฟฟ้าอัจฉริยะ ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของซอฟต์แวร์หรือระบบควบคุม แต่ยังรวมถึงองค์ประกอบทางกายภาพที่มีความสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการใช้สายไฟ THW ที่ช่วยเสริมความเสถียรของระบบจ่ายไฟให้สามารถรองรับกระแสไฟฟ้าที่สื่อสารและควบคุมกันแบบเรียลไทม์ได้อย่างปลอดภัยและต่อเนื่อง ด้วยคุณสมบัติพิเศษในการทนความร้อนและความชื้น ซึ่งตอบโจทย์การใช้งานในระบบ Smart Grid ได้อย่างเหมาะสม 

ข้อดีของการใช้สายไฟที่เหมาะสมกับ Smart Grid และ IoT (Internet of Things)

• การเลือกใช้สายไฟที่เหมาะสม เช่น สายไฟ THW จะช่วยให้ระบบจ่ายไฟมีความปลอดภัย และส่งผ่านพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด รองรับเทคโนโลยีอัจฉริยะในทุกสภาพแวดล้อม
• เมื่อสายไฟ THW ทำหน้าที่ส่งผ่านพลังงานอย่างมีเสถียรภาพ ก็จะช่วยลดความสูญเสียของพลังงานไฟฟ้าจากความต้านทานหรือสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม จึงช่วยเสริมให้ระบบไฟฟ้าอัจฉริยะทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
  

ดังนั้น การติดตั้งระบบไฟฟ้าในยุคนี้ไม่เพียงแค่มองหานวัตกรรมล้ำสมัย แต่ควรเริ่มต้นจากการเลือกใช้สายไฟที่ได้มาตรฐานอย่างสายไฟ THW เพื่อให้ทุกการส่งผ่านพลังงานสอดรับกับระบบที่ต้องการความแม่นยำและปลอดภัยในระยะยาว

บทบาทของสายไฟ THW ในระบบไฟฟ้าอัจฉริยะ

สายไฟ THW มีบทบาทสำคัญในระบบไฟฟ้าอัจฉริยะ เพราะช่วยให้การจ่ายพลังงานเป็นไปอย่างเสถียร ปลอดภัย และรองรับการทำงานของอุปกรณ์ IoT ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

• รับรองการส่งผ่านพลังงานที่เสถียร : สายไฟ THW เชื่อมต่อกับมิเตอร์ไฟฟ้า เซนเซอร์ และอุปกรณ์ IoT ช่วยให้กระแสไฟคงที่ ลดปัญหาสัญญาณไฟฟ้าสะดุด และรองรับระบบควบคุมแบบเรียลไทม์ได้ดี
• ให้ความปลอดภัยและทนทาน : ด้วยฉนวน PVC ที่ทนต่อความชื้นและความร้อน สายไฟ THW จึงเหมาะสำหรับบ้าน อาคาร และโรงงานที่ต้องเชื่อมต่ออุปกรณ์ไฟฟ้าหลายจุดในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย
• รองรับเครือข่ายไฟฟ้าที่พัฒนาแล้ว : สายไฟ THW สามารถทำงานร่วมกับระบบ Smart Grid และ IoT ได้อย่างราบรื่น ลดความเสี่ยงไฟตก ไฟกระชาก ช่วยให้ระบบไฟฟ้าทำงานแม่นยำและต่อเนื่อง 

สายไฟ THW จึงมีบทบาทสำคัญไม่เพียงแค่เชื่อมต่อพลังงานไฟฟ้า แต่ยังช่วยสร้างรากฐานที่มั่นคงให้กับระบบไฟฟ้าอัจฉริยะ รองรับความต้องการของการใช้งานที่เปลี่ยนไปในโลกยุคดิจิทัลอย่างลงตัว

สายไฟ THW ควรซื้อที่ไหนดี ต้องซื้อที่ STS Thonburi !

หากคุณกำลังมองหาสายไฟ THW สำหรับการเชื่อมต่อระบบไฟฟ้าอัจฉริยะภายในบ้านและโรงงาน การันตีคุณภาพสูงจากแบรนด์ชั้นนำ เลือก STS Thonburi ผู้จัดจำหน่ายสายไฟและอุปกรณ์ไฟฟ้า พร้อมบริการจัดส่งทั่วประเทศ หากสนใจสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้เลย

แหล่งอ้างอิง

1. Everything You Need to Know About THW Wire and Cable. สืบค้นเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2568 จาก https://joca-cable.com/blog/thw-wire/
2. How IoT Revolutionizes the Wire and Cable Industry. สืบค้นเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2568 จาก https://www.lapptannehill.com/news/iot-revolutionizes-wire-cable-industry