ในหลาย ๆ บทความที่ผ่านมา ผู้อ่านจะสังเกตเห็นได้ว่าเรามักจะเน้นย้ำเสมอถึงความสำคัญในการ "เลือกใช้สายไฟให้เหมาะสม" เพราะสายไฟทำหน้าที่เป็นตัวกลางส่งต่อกระแสไฟฟ้า จึงต้องเลือกให้ดีเพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน และในบทความนี้เราจะมาพูดถึงประเภทตัวนำสายไฟอย่าง สายไฟอะลูมิเนียมกับสายไฟทองแดง พร้อมเปรียบเทียบให้ชัดว่าสายไฟทั้งสองประเภท มีข้อดี ข้อจำกัด และความเหมาะสมในการใช้งานแตกต่างกันอย่างไร
สายไฟอะลูมิเนียม คือสายไฟที่มีตัวนำไฟฟ้าทำจากโลหะอะลูมิเนียม โดยจะมีการหุ้มด้วยฉนวนพลาสติกชนิดต่าง ๆ เช่น PVC หรือ XLPE สายไฟอะลูมิเนียมมีน้ำหนักที่เบากว่าสายไฟเมนทองแดง จึงเหมาะสำหรับใช้ติดตั้งในลักษณะแขวนบนเสาไฟฟ้าภายนอกอาคาร ที่ต้องเดินสายเป็นระยะทางไกล เนื่องจากสามารถแขวนลอยได้ง่าย และช่วยลดต้นทุนการติดตั้ง
สายไฟทองแดง คือสายไฟที่มีตัวนำไฟฟ้าทำจากโลหะทองแดง ซึ่งเป็นโลหะที่มีค่าการนำไฟฟ้าสูงมาก และมีความแข็งแรง สายไฟเมนทองแดงนิยมใช้ในการติดตั้งภายในอาคารและใต้ดิน (Underground Cable) เนื่องจากมีความทนทานสูง และสามารถติดตั้งได้ง่ายโดยไม่หักงอง่าย สายไฟเมนทองแดงนิยมหุ้มด้วยฉนวนพลาสติก PVC และ XLPE เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและความทนทานในการใช้งาน
จากที่ได้กล่าวไปแล้วว่า สายไฟอะลูมิเนียมกับสายไฟทองแดงนั้น แต่ละประเภทต่างก็มีลักษณะเฉพาะและการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้น เราจะมาเปรียบเทียบให้เห็นถึงความแตกต่างของทั้งสองประเภทอย่างละเอียดกันมากขึ้น เพื่อให้เห็นความเหมาะสมในการนำไปใช้งานในแต่ละลักษณะการติดตั้ง
สายไฟอะลูมิเนียม คือสายไฟที่มีตัวนำไฟฟ้าทำจากโลหะอะลูมิเนียม โดยจะมีการหุ้มด้วยฉนวนพลาสติกชนิดต่าง ๆ เช่น PVC หรือ XLPE สายไฟอะลูมิเนียมมีน้ำหนักที่เบากว่าสายไฟเมนทองแดง จึงเหมาะสำหรับใช้ติดตั้งในลักษณะแขวนบนเสาไฟฟ้าภายนอกอาคาร ที่ต้องเดินสายเป็นระยะทางไกล เนื่องจากสามารถแขวนลอยได้ง่าย และช่วยลดต้นทุนการติดตั้ง
สายไฟทองแดง คือสายไฟที่มีตัวนำไฟฟ้าทำจากโลหะทองแดง ซึ่งเป็นโลหะที่มีค่าการนำไฟฟ้าสูงมาก และมีความแข็งแรง สายไฟเมนทองแดงนิยมใช้ในการติดตั้งภายในอาคารและใต้ดิน (Underground Cable) เนื่องจากมีความทนทานสูง และสามารถติดตั้งได้ง่ายโดยไม่หักงอง่าย สายไฟเมนทองแดงนิยมหุ้มด้วยฉนวนพลาสติก PVC และ XLPE เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและความทนทานในการใช้งาน
จากที่ได้กล่าวไปแล้วว่า สายไฟอะลูมิเนียมกับสายไฟทองแดงนั้น แต่ละประเภทต่างก็มีลักษณะเฉพาะและการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้น เราจะมาเปรียบเทียบให้เห็นถึงความแตกต่างของทั้งสองประเภทอย่างละเอียดกันมากขึ้น เพื่อให้เห็นความเหมาะสมในการนำไปใช้งานในแต่ละลักษณะการติดตั้ง
สายไฟอะลูมิเนียมจะมีน้ำหนักเบากว่าสายไฟทองแดงมาก จึงเหมาะสำหรับการวางสายไฟในลักษณะที่ต้องการความคล่องตัว เช่น การแขวนลอยในอากาศ หรือใช้กับสายส่งไฟฟ้าแรงสูงบนสายส่งที่ต้องเดินสายเป็นระยะทางไกล เนื่องจากช่วยลดน้ำหนักและต้นทุนในการติดตั้ง
ในขณะเดียวกัน สายไฟทองแดงจะมีน้ำหนักที่หนักมากกว่า แต่ก็เป็นจุดเด่นที่ช่วยทำให้สายไฟประเภทนี้มีความทนทานสูงขึ้น จึงทำให้เหมาะสำหรับการนำไปใช้วางระบบสายไฟภายในอาคาร และการติดตั้งใต้ดิน
สายไฟแกนทองแดงจะมีความต้านทานต่ำกว่าอะลูมิเนียม ทำให้สามารถส่งกระแสไฟได้ไกลขึ้น ช่วยให้เกิดความสะดวกในการวางแผนระบบเครือข่ายและลดจำนวนจุดจ่ายไฟ
เนื่องจากตัวนำอะลูมิเนียมมีความต้านทานไฟฟ้าสูงกว่าตัวนำทองแดงประมาณ 1.68 เท่า ดังนั้น การใช้สายไฟอะลูมิเนียมจึงต้องใช้ขนาดตัวนำที่ใหญ่กว่าตัวนำทองแดง เพื่อให้สามารถรับกระแสไฟฟ้าได้เท่ากัน กระนั้นอะลูมิเนียมก็ยังมีน้ำหนักที่เบากว่า แต่โดยทั่วไปแล้ว การใช้สายไฟอะลูมิเนียมจะมีราคาถูกกว่าสายไฟทองแดง แม้จะต้องใช้ขนาดตัวนำให้ใหญ่ขึ้นเพื่อชดเชยการนำกระแสให้ได้เท่ากับสายทองแดงก็ตาม ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้เป็นที่นิยมในการใช้เพื่อช่วยลดต้นทุนในการติดตั้งนั่นเอง
สายไฟทองแดงมีความสามารถในการทนทานต่อความร้อนได้ดีกว่าสายไฟอะลูมิเนียม จึงมักนำไปใช้ทำสายไฟที่ต้องผ่านการทดสอบการลามไฟอย่าง สาย FR-CV (Flame Retardant Cable) ที่สามารถต้านทานการติดไฟได้ดี มีฉนวนหุ้มชนิด XLPE ช่วยเพิ่มความปลอดภัยเมื่อเกิดเหตุไฟฟ้าลัดวงจร และป้องกันการลุกลามในงานอุตสาหรรมได้
แต่ในขณะเดียวกัน สายไฟอะลูมิเนียมจะมีความเสี่ยงต่อการเกิดออกซิเดชันมากกว่า ซึ่งอาจทำให้สายไฟเกิดความเสียหายและลามไฟได้ง่าย จึงไม่เหมาะที่จะใช้เป็นสายไฟภายในอาคาร แต่จะนิยมใช้ติดตั้งภายนอกมากกว่านั่นเอง
เพราะสายไฟทองแดงมีน้ำหนักที่สูงกว่า แต่ก็มีความปลอดภัยและนำไฟฟ้าได้ดี จึงเป็นที่นิยมนำมาใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้า การเดินสายไฟภายในอาคาร และการติดตั้งใต้ดิน แต่ในส่วนของสายไฟอะลูมิเนียมที่มีความยืดหยุ่นน้อยกว่า และมีโอกาสเกิดความเสียหายได้มากกว่า จะนิยมนำไปใช้กับสายส่งไฟฟ้าแรงดันสูงที่ต้องแขวนลอยในอากาศ หรืองานที่ต้องการประหยัดต้นทุนในการติดตั้งแทน
จากการเปรียบเทียบข้างต้น จะเห็นได้ว่า สายไฟอะลูมิเนียมกับสายไฟทองแดง แม้จะมีจุดแข็งและจุดอ่อนบางประการที่แตกต่างกัน แต่ทั้งสองประเภทต่างก็มีความเหมาะสมในการนำไปใช้ในงานและสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน ซึ่งผู้ใช้งานควรพิจารณาเลือกใช้สายไฟให้เหมาะสมกับการใช้งานเป็นสำคัญ