การเลือกใช้สายไฟฟ้ากับเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน ฉบับมือใหม่!

การเลือกใช้สายไฟฟ้าให้เหมาะสม สำคัญอย่างไร

ป้องกันทุกภัยความเสี่ยงจากไฟฟ้า ด้วยการเลือกสายไฟฟ้าให้เหมาะสมกับเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในที่พักอาศัย สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าจะต้องเลือกอย่างไร ในบทความนี้เราจะมาให้ความรู้เบื้องต้น พร้อมแนะนำวิธีการเลือกใช้สายไฟฟ้าอย่างง่ายให้แก่ทุกคน หากพร้อมแล้วเลื่อนลงไปอ่านกันได้เลย

รู้จักกับประเภทสายไฟที่ใช้ในที่พักอาศัย

อันดับแรกก่อนที่จะเข้าสู่วิธีการเลือกใช้สายไฟฟ้าสำหรับข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ คุณจำเป็นจะต้องรู้เสียก่อนว่าประเภทของสายไฟแบบไหนที่เหมาะสมกับการใช้ในเคหสถาน เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยต่อทรัพย์สินและชีวิต

ซึ่งประเภทของสายไฟที่เหมาะสม คือ สายไฟแรงดันต่ำ สำหรับจ่ายกระแสไฟฟ้าภายในอาคารหรือที่พักอาศัย โดยทั่วไปแล้วจะมีแรงดันไฟฟ้าไม่เกิน 750 โวลต์ สามารถแบ่งตามความนิยมในการใช้งานได้ทั้งหมด 3 ชนิด ได้แก่

  • สาย VAF : สายไฟที่มีสายดินในตัว เป็นสายแบน นิยมนำมาใช้ในการเดินลอยตีกิ๊บหรือเข็มขัดรัดสายไฟภายในอาคาร
  • สาย THW : สายไฟที่มีตัวนำหุ้มฉนวนชั้นเดียว นิยมใช้เดินลอยในอากาศ ด้วยการร้อยท่อหรือเดินในราง Wire Way
  • สาย VCT : สายไฟสารพัดประโยชน์ สามารถเดินลอยตีกิ๊บ หรือร้อยท่อก็ได้ โดยมีให้เลือกทั้งแบบแกนเดี่ยว-แกนคู่ และหลายแกนพร้อมสายดิน ซึ่งส่วนมากประเภทหลังจะนิยมใช้เพื่อเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์มากกว่าการเดินภายในอาคาร เพราะทองแดงจะเป็นฝอยทำให้ทนการสั่นสะเทือนได้ดีส่งผลให้ต่อเข้าเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ง่าย

ความสำคัญของการเลือกใช้สายไฟฟ้าที่เหมาะสม

สำหรับคนที่ไม่ได้เป็นช่างไฟ แต่เป็นมือใหม่ในการเป็นเจ้าของบ้าน คงต้องสงสัยไม่น้อยว่าทำไมถึงต้องให้ความสำคัญกับการเลือกใช้สายไฟฟ้าให้เหมาะสม ในเมื่อก็มีหน้าที่ในการนำกระแสไฟไปจ่ายต่อให้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าและแหล่งกำเนิดแสงเหมือน ๆ กัน?

จริง ๆ คำตอบอาจจะอยู่ในความสงสัยนั้นส่วนหนึ่งแล้ว เพราะความสำคัญของสายไฟคือการจ่ายกระแสไฟฟ้าไปสิ่งต่าง ๆ เพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แต่ก็ต้องมาพร้อมกับ ความปลอดภัย เพราะถ้าสายไฟฟ้าที่เลือกใช้เกิดไม่ตรงตามสเป็ก ก็อาจจะทำให้เกิดความเสียหายที่นำไปสู่อุบัติเหตุทางไฟฟ้า จนทำให้ผู้อาศัยในบ้านได้รับบาดเจ็บ หรืออาจหนักถึงขั้นสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินได้

สรุปความสำคัญ ทำไมต้องเลือกสายไฟให้เหมาะสม?

  • ป้องกันเหตุไฟฟ้าลัดวงจร
เพราะสายไฟที่ใช่และมีขนาดที่เหมาะสม จะสามารถรองรับแรงดันไฟฟ้าสูงสุดตามการใช้งานจริงได้อย่างปลอดภัย ต่างจากการใช้สายไฟที่ไม่ได้มาตรฐาน มีค่าต้านทานไฟฟ้าต่ำ ก็จะทำให้เกิดความร้อนจากการรองรับกระแสไฟไหลผ่านที่มีปริมาณมากเกินไป จนเกิดความเสียหายต่อเครื่องใช้ไฟฟ้าและอาจเกิดอัคคีภัยได้อีกด้วย
  • เพิ่มความปลอดภัย
ลดเสี่ยงจากไฟดูด เพราะการเลือกใช้สายไฟฟ้าที่มีคุณภาพและมาตรฐาน จะมาพร้อมกับฉนวนหุ้มที่สามารถป้องกันกระแสไฟฟ้ารั่วได้จริง อีกทั้งขนาดที่เหมาะสมยังสามารถรองรับกระแสไฟฟ้าสูงสุดที่ใช้งานจริงได้ ทั้งยังมาพร้อมกับการระบุสีตามมาตรฐานสายไฟ ซึ่งช่วยให้ช่างไฟและผู้ใช้งาน สามารถติดตั้งสายไฟได้อย่างถูกต้อง ไร้กังวลเรื่องความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดไฟดูด
  • ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ดี
ด้วยมาตรฐานของสายไฟที่เป็นไปตามข้อกำหนด จะทำให้สามารถนำมาใช้งานได้อย่างทนทานและปลอดภัย ปราศจากความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดความร้อนสะสมที่อาจทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าเสียหาย จนต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมหรือซื้อใหม่ โดยหลักการง่าย ๆ ที่จะมาช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย คือการเลือกขนาดของสายไฟให้เหมาะสมกับกำลังไฟและเครื่องใช้ไฟฟ้า เพื่อให้กระแสไฟฟ้าสามารถไหลผ่านไปได้อย่างสะดวก ปลอดภัย และใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

หลักการเลือกใช้สายไฟฟ้าสำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้า

หลังจากได้รู้เรื่องพื้นฐานทั้งประเภทของสายไฟและความสำคัญในการเลือกใช้งานกันไปแล้ว ในส่วนนี้เราก็ดำเนินมาถึงใจความสำคัญของบทความ ที่จะมาบอกต่อหลักการเลือกใช้สายไฟสำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างง่ายสำหรับมือใหม่ บอกเลยว่าแค่อ่านและจดจำให้ดีก็จะช่วยให้คุณสามารถเข้าใจ พร้อมนำไปประกอบการเลือกซื้อสายไฟมาใช้งานในบ้านได้อย่างแน่นอน

1. เลือกขนาดสายไฟให้เหมาะกับกำลังไฟของเครื่องใช้ไฟฟ้า

เริ่มต้นกันที่การเลือกขนาดสายไฟ โดยจะต้องเลือกให้เหมาะสมกับแรงดันและปริมาณกระแสไฟฟ้าที่ใช้งาน ที่สำคัญต้องสอดคล้องกับขนาดของฟิวส์หรือเบรกเกอร์ด้วย ยกตัวอย่างเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เห็นได้ชัดอย่างเครื่องปรับอากาศ (แอร์) และเครื่องทำน้ำอุ่น โดยมีตัวอย่างการใช้ขนาดสายไฟดังนี้

เครื่องปรับอากาศ (แอร์)

  • 9000-15000 BTU ใช้ขนาดเบรกเกอร์อยู่ที่ 15(16) A เหมาะกับขนาดสายไฟ 2.5 sq.mm.
  • 18000-30000 BTU ใช้ขนาดเบรกเกอร์อยู่ที่ 20 A เหมาะกับขนาดสายไฟ 4 sq.mm.
  • 36000 BTU ใช้ขนาดเบรกเกอร์อยู่ที่ 25-30(32) A เหมาะกับขนาดสายไฟ 6 sq.mm.

เครื่องทำน้ำอุ่น

  • เครื่องทำน้ำอุ่น 2,500 วัตต์ ใช้ขนาดเบรกเกอร์อยู่ที่ 16 A เหมาะกับขนาดสายไฟ 2.5 sq.mm.
  • เครื่องทำน้ำอุ่น 3,500 วัตต์ ใช้ขนาดเบรกเกอร์อยู่ที่ 20 A เหมาะกับขนาดสายไฟ 4 sq.mm.
  • เครื่องทำน้ำอุ่น 4,500 วัตต์ ใช้ขนาดเบรกเกอร์อยู่ที่ 32 A เหมาะกับขนาดสายไฟ 6 sq.mm.
  • เครื่องทำน้ำอุ่น 6,000 วัตต์ ใช้ขนาดเบรกเกอร์อยู่ที่ 40 A เหมาะกับขนาดสายไฟ 10 sq.mm.
  • เครื่องทำน้ำอุ่น 9,000 วัตต์ ใช้ขนาดเบรกเกอร์อยู่ที่ 50 A เหมาะกับขนาดสายไฟ 16 sq.mm.

2. เลือกระยะความยาวและการเดินสายไฟให้เหมาะสม

ควรเลือกระยะความยาวของสายไฟให้เหมาะสม โดยเน้นไปที่สายไฟที่มีค่าความต้านทานต่อหน่วยความยาวต่ำ เพื่อให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่านสายไฟได้อย่างสะดวกและปลอดภัย ลดความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดความร้อนสะสมจนทำให้สายไฟและอุปกรณ์ต่าง ๆ เสียหายได้

3. เลือกใช้สายไฟฟ้าตามสภาพแวดล้อมการติดตั้ง

เพราะความปลอดภัยต้องมาเป็นอันดับต้น ๆ ซึ่งสภาพแวดล้อมก็มีส่วนสำคัญเป็นอย่างมากต่อการเลือกใช้สายไฟฟ้า เนื่องจากเป็นตัวแปรที่อาจทำให้เกิดเหตุไฟรั่ว ไฟช็อต ไฟลัดวงจรได้ ดังนั้น จึงควรพิจารณาให้ดี ยกตัวอย่างเช่น หากต้องเดินสายไฟในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง หรือมีอุณหภูมิสูง ก็ควรเลือกสายไฟที่มีฉนวนหุ้มที่ทนทานต่อสภาพแวดล้อมเหล่านั้นได้ดีอย่าง ฉนวน PVC แต่ถ้าต้องติดตั้งในที่ที่มีอุณหภูมิสูงอย่างบริเวณใต้หลังคา ก็ควรเลือกสายไฟที่มีฉนวนหุ้มแบบ XLPE ชนิดทนความร้อน (Heat Resistant) แทน

4. เลือกชนิดสายไฟให้เหมาะสมกับการใช้งาน

ชนิดสายไฟมีความสำคัญเป็นอย่างมากกับการเลือกสายไฟสำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้า เนื่องจากชนิดสายไฟจะส่งผลต่อคุณสมบัติและการใช้งานของสายไฟ เช่น ความสามารถในการทนกระแสไฟฟ้า ความสามารถในการทนความร้อน และความสามารถในการทนความชื้น โดยสาย THW โดยส่วนมากจะนิยมใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไป อย่างพัดลม เตารีด โคมไฟ ในขณะที่สาย VAF จะใช้กับตู้คอนโทรล เต้ารับ และปลั๊ก แต่สำหรับสาย VCT นั้น จะใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีกำลังไฟสูง อย่างเครื่องปรับอากาศ และเครื่องทำน้ำอุ่น นั่นเอง

เพื่อความปลอดภัยขั้นสูงสุดในการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน อย่าลืมคำนึงถึงหลักการเลือกใช้สายไฟฟ้าที่เหมาะสมทุกครั้งก่อนเลือกซื้อ แต่หากใครไม่มั่นใจ สามารถมาปรึกษาเพื่อขอดูสินค้าและเลือกซื้อให้ตรงตามมาตรฐานไทยและสากลได้เลยที่ STS Thonburi บริษัทขายส่งสายไฟและอุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิด และเป็นตัวแทนจำหน่ายของแบรนด์ชั้นนำมากมาย เช่น สายไฟ Thai Union , FUHRER , PKS และอื่น ๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะมองหาสายไฟ THW, VAF หรือ VCT สำหรับใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าแบบไหนก็มีครบ พร้อมบริการจัดส่งให้ทั่วประเทศ

Line: @sts7744 (มี@)
เพิ่มเพื่อน

 

ข้อมูลอ้างอิง

  1. สายไฟ ชนิดของสายไฟ และวิธีเลือกสายไฟ ให้เหมาะสมกับการใช้งาน ป้องกันอันตรายจากการลัดวงจร. สืบค้นเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2566 จาก https://www.1belief.com/article/power-cable/
  2. การเลือกขนาดสายไฟ. สืบค้นเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2566 จาก https://www.torwitchukorn.com/th/articles/122695-การเลือกขนาดสายไฟ- 
  3. ข้อคำนึงถึง การเลือกสายไฟ ให้เหมาะสม. สืบค้นเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2566 จาก https://www.thaielectricalhub.com/uncategorized/การเลือก-สายไฟ/ 
  4. รู้กันให้ชัด ! เบรกเกอร์แอร์ใช้กี่แอมป์ ปิดแอร์ต้องปิดเบรกเกอร์ไหม. สืบค้นเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2566 จาก https://www.daikin.co.th/service-knowledge/air-circuit-breaker/
  5. วิธีติดตั้งเครื่องทําน้ำอุ่น ยังไงให้ปลอดภัย!!. สืบค้นเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2566 จาก https://globalhouse.co.th/globalidea/detail/295
  6. Can Wires Save Electricity Bill?. สืบค้นเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2566 จาก https://www.theelectricalguy.in/tutorials/can-wires-save-electricity-bill/#:~:text=Wires%20that%20can%20save%20electricity%2C%20will%20have%20less%20resistance%20than,be%20of%20very%20good%20quality.
  7. เครื่องทำน้ำอุ่น ใช้สายไฟ 2.5 ได้ไหม พร้อมบอกข้อควรรู้ที่ห้ามพลาด!. สืบค้นเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2566 จาก https://globalhouse.co.th/globalidea/detail/351
  8. วิธีติดตั้งเครื่องทําน้ำอุ่น ยังไงให้ปลอดภัย!!. สืบค้นเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2566 จาก https://globalhouse.co.th/globalidea/detail/295 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้